แสดงบทความที่มีป้ายกำกับ งานประเพณีไทย แสดงบทความทั้งหมด
แสดงบทความที่มีป้ายกำกับ งานประเพณีไทย แสดงบทความทั้งหมด

วันจันทร์ที่ 17 ธันวาคม พ.ศ. 2555

งานประเพณีไทย ยอยศยิ่งฟ้า อยุธยามรดกโลก


 ยอยศยิ่งฟ้า อยุธยามรดกโลก
งานยอยศยิ่งฟ้า อยุธยามรดกโลก


งานประเพณีไทย ยอยศยิ่งฟ้า อยุธยามรดกโลก จังหวัดพระนครศรีอยุธยา วันที่ ๑๐ -๑๙ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๕  

กรุงศรีอยุธยาดำรงความเป็นราชธานีนานถึง 417 ปี ได้สั่งสมวัฒนธรรมจนก่อเกิดเป็นเอกลัษณ์เฉพาะตัวสืบต่อกันมา จนกลายเป็นรากฐานของประเทศไทยและวิถีชีวิตของคนไทยในทุกวัน

จากความโดดเด่นของอารยธรรม ประเพณีและศิลปะวัฒนธรรม องค์การยูเนสโก จึงประกาศให้อุทยานประวัติศาสตร์พระนครศรีอยุธยาเป็นมรดกโลกทางวัฒนธรรม เมื่อวันที่ ๑๓ ธันวาคม ๒๕๓๔ เพื่อเป็นการเฉลิมฉลองการประกาศขึ้นทะเบียนมรดกโลก ตั้งแต่ปี๒๕๓๔ จนได้มีการเฉลิมฉลองโดยจัดงานยอยศยิ่งฟ้า อยุธยามรดกโลกขึ้น ภายในงานยังมีการจัดแสดงแสงสีเสียงแล้วยังมีการอัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุออกประดิษฐานให้ประชาชนทั่วไปได้สักการะ บริเวณมณฑลพิธีหน้าวิหารพระมงคลบพิตร


จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ร่วมกับการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) หน่วยงานภาครัฐและเอกชน กำหนดจัดงาน ยอยศยิ่งฟ้า อยุธยามรดกโลก และงานกาชาด ในวันที่ ๑๐ -๑๙ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๕ ณ อุทยานประวัติศาสตร์พระนครศรีอยุธยา ปีนี้เลื่อนจากเดือนธันวาคมของทุกปี เนื่องจากประสบอุทกภัยที่ผ่านมา

     นางสาวธนวัน กาสี ผู้ช่วยผู้อำนวยการ ททท. สำนักงานพระนครศรีอยุธยา กล่าวว่า การจัดงานยอยศยิ่งฟ้า อยุธยามรดกโลก และงานกาชาด มีกิจกรรมที่น่าสนใจอย่างยิ่ง คือ การแสดงแสง เสียง ในชื่อชุด “ยอยศยิ่งฟ้า นานาชาติประกาศก้อง แผ่นดินทองศรีอยุธยา” โดยมหาวิทยาลัยราชภัฏพระนครศรีอยุธยา บัตรเข้าชมราคา ๒๐๐ บาท และ ๕๐๐ บาท นอกจากนั้น ยังมี


  •      กิจกรรมการถ่ายภาพโบราณเป็นภาพหนังใหญ่ ซึ่งเป็นศิลปะที่เกิดขึ้นในสมัยกรุงศรีอยุธยา
  •      ชมการแสดงศิลปวัฒนธรรมพื้นบ้านและการจัดแสดงวิถีชีวิตความเป็นอยู่ของชุมชนโบราณ
  •      สัมผัสบรรยากาศตลาดย้อนยุคสมัยกรุงศรีอยุธยาและตลาดน้ำ พร้อมเลือกชิมอาหารคาว-หวานเลิศรสมากมาย
  •      การสาธิตศิลปหัตถกรรมไทย เช่น การสานปลาตะเพียน เป็นต้น
  •      การแสดงดนตรีไทยและดนตรีนานาชาติ
  •      กิจกรรมงานกาชาด การจำหน่ายของที่ระลึก และอื่นๆ อีกมากมาย 

วันพุธที่ 5 ธันวาคม พ.ศ. 2555

ประเพณีไทยวัฒนธรรมไทย กับดีไซน์ คัลเจอร์


วัฒนธรรมไทย กับดีไซน์ คัลเจอร์
ความเป็นไทย กับดีไซน์ คัลเจอร์
 เมื่อพูดถึง ความเป็นไทยใครหลาย    ๆ คน อาจจินตนาการไปในขอบข่ายทางวัฒนธรรม เช่น การแสดงนาฏศิลป์ไทย ปราสาท วิหาร วัดวาอาราม ลายกนก ผ้าไทย หรือแม้กระทั่ง ภาพในวรรณคดี ที่มีกินรีและหนุมานร่ายรำอย่างอ่อนช้อย ทว่า ในความเป็นจริงแล้ว ความเป็นไทย”  ในบริบททางสังคมยุคปัจจุบัน  มีความมายกว้างขวางมากกว่าตัวอย่างที่กล่าวมาขั้นต้น
พักเรื่องความเป็นไทยไว้ก่อน...

เปลี่ยนไปคุยเรื่อง "แวดวงสินค้าดีไซน์ขายไอเดีย" กันบ้าง เป็นที่รู้กันว่า เมื่อพูดถึงสินค้าส่งออก หลายประเทศต่างนำ ความเป็นเอกลักษณ์ของชาติของตน มาใช้ต่างส่วนผสม เพื่อปรุงแต่งสินค้าทางวัฒนธรรมของประเทศตน ให้มีกลิ่นอายของความเป็นชาติ แบบที่เห็นแล้วร้องอ๋อ...เพราะรู้ที่มาว่าซื้อมาจากที่ไหน ซึ่งตัวอย่างที่เราเห็นได้ชัดเจนที่สุด คือสินค้าจากจ้าวแห่งเทคโนโลยีอย่าง "ญี่ปุ่น" ที่ไม่ว่าจะประดิษฐ์อะไร ขายอะไร ก็ดูจะประสบความสำเร็จ ขายดีขายได้ไปเสียหมด โดยความน่าสนใจอยู่ที่ สินค้าดีไซน์ที่ขายดีส่วนใหญ่ ต่างผะยี่ห้อแจแปนเอาไว้ แบบไม่ต้องอาศัย โลโก้หรือสติ๊กเกอร์ เพราะเขาได้ผสานเอาความเป็นญี่ปุ่นเอาไว้ ในสินค้าทุกชิ้นทุกแบบ ...ว่าแต่ ทำไมถึงเป็นเช่นนั้น ??
 อย่างไรก็ตาม ขออนุญาตนำท่านกลับมาสู่ความเป็นไทย ด้วยการเชิญชวนให้ผู้ชมลองจินตนาการเล่น ๆ ตามสโลแกน คิดเล่นเห็นต่างว่ามีสินค้าขายดีไซน์อะไรบ้าง ที่โดดเด่นเป็นเอกลักษณ์ของไทย ขอให้ยกตัวอย่างสิ่งที่เมื่อพูดขึ้นมาแล้ว คนทั้งโลกรู้จัก...

 อืม...ต้มยำกุ้ง” “มวยไทย”.... ถ้าสองอย่างนี้คือคำตอบที่ท่านคิด เราขอเฉลยว่า ผิดเพราะทั้งสองอย่างไม่ใช่ สินค้าขายดีไซน์ในความหมายที่เรากำลังพูดถึง
 ว่าแต่...สินค้าขายดีไซน์ของไทย ทำไมไม่ก้าวไกลสู่สากล??

หนึ่งในความยากของการผลักดันสินค้าดีไซน์ไทยสู่ตลาดโลก เกิดจากปัญหาใหญ่คือ การยึดติดกรอบความเป็นไทยนี่เอง ซึ่งประเด็นนี้ เป็นหัวข้อที่น่าสนใจ ในการนำมาวิพากษ์กันอย่างสนุก และเป็นที่มาของ รายการคิดเล่นเห็นต่างกับคำผกา ตอน วัฒนธรรมไทยกับดีไซน์ คัลเจอร์กับตัวอย่างที่ คำผกานำมาเป็นกรณีศึกษาให้ผู้ที่สนใจ นำไปคิดต่อ เพราะบางที ความคิดเล่น ๆ ของคนกลุ่มเล็ก ๆ อาจนำไปสู่ปลายทางที่ยิ่งใหญ่ กับ หนทางที่สินค้าไทย ๆ จะก้าวไกลสู่ตลาดโลกอย่างแท้จริง

เครดิต. อาจารย์ต่อ แห่งฝ้ายซอคำ

วันจันทร์ที่ 26 พฤศจิกายน พ.ศ. 2555

ประเพณีไทย ลอยกระทง โอเคแม่ใหญ่สอน

ประเพณีไทย ลอยกระทงกับโอเคแม่ใหญ่สอน เหตุเกิดจากฟังเพลงของวงดนตรีที่เล่นได้ดี(เล่นได้แสบดากมากๆ) เนื้อหาก็เกี่ยวกับหนุ่มสาวลอยกระทงและได้สัญญา OK. ว่าจะรักและซื่อสัตย์ต่อกันมั้ง แต่ไหงเหตุการณ์มันเปลี่ยนไปเป็น ลอยกระทงปีต่อมามันเปลี่ยนไป เชิญแซ่บ


วันพฤหัสบดีที่ 22 พฤศจิกายน พ.ศ. 2555

ข้าว ชาวนา แรงงาน บ่อเกิดวัฒนธรรมประเพณีไทย

ว่าแล้วก็ขอเขียนบทความเกี่ยวกับประเพณีไทยสักหน่อย ในน้ำมีปลา ในนามีข้าว ประเพณีเกี่ยวกับข้าวน้ำซ่ามปลาหลายขนาดล่ะภาคอิสานเฮา แต่มื้อนี้คันแข่วเหตุเกิดจากวันนี้ตอนเย็นไปตลาดเลาะๆบ้านมา ไปเจอปูนาตัวโตๆเลยเกิดความอยากกิน คึดฮอดบ้านอิสาน ข้าวใหม่ปลามัน ว่าแล้วกะน้ำลายไหล  เอ...วันนี้เราจะทำไรกับปูนาดีหว๋า.....

กำพืดเราเป็นชาวนา ชนชั้นกรรมาชีพ เกิดในแดนดินแห่งความแห้งแล้ง เอาละเหวย...เจอมะละกอกับผักชีลาว ฮ่วยมันก็สวรรค์ปั้นแต่งคักๆนี่นา...ไม่ได้กินมาทำมาหลายปีแแล้ว ครบเครื่องล่ะ ผักกะแยงที่บ้านก็ซื้อมาปลูก 3-4 กระถาง "มื้อนี้สิอ่อมกะปูแซ่บๆ"

ว่าแล้วกะจัดแจงปรุงแต่งตำรา เอาปูมาโขลก ตำๆๆๆ ปั้นเอาแต่น้ำ แล้วเอามา*เอาะๆ(เขียนยากคักขั้นตอนนี้ บางคนเรียกว่าอุๆ) สุกแล้วกะใส่ผักปรุงรส ซดลองเบิ่ง อย่าลืมใส่น้ำปลาแดกเด้อ แซบขนาด ว่าแล้วกะขอตัวซดละเด้อพี่น้อง..งวดหน้าสิหาหอยมาอ่อม.....


วันอังคารที่ 13 พฤศจิกายน พ.ศ. 2555

มนุษย์ไทย เมื่อ 3,000 ปีมาแล้ว กิน “ข้าวเหนียว”




ตามรอยข้าวไทยยุคที่ประเพณีไทยเฟื่องฟูมากเกี่ยวกับการตอบแทนคุณข้าวคุณน้ำ เมื่อ 3,000 ปีที่แล้ว เราจะมารีวิวเกี่ยวกับข้าวกันก่อน เราๆเองจะได้เข้าใจอย่าถ่องแท้ยิ่งๆขึ้นก่อนจะรีวิวถึงประเพณีไทยอิสานมีที่มาที่ไปที่สนุกสนานพร้อมเรื่องเล่ามากมาย ขอเกริ่นก่อนเด้อ

พันธุ์ข้าวยุคแรก ๆ ที่มาจากป่านั้น มีเมล็ดลักษณะอ้วนป้อม จัดอยู่ในตระกูลข้าวเหนียวจากหลักฐานที่พบ เช่น ชุมชนบ้านเชียงอุดรธานี ได้พบเครื่องปั้นดินเผาลายเขียนสี มีแกลบหรือเปลือกข้าวเป็นส่วนผสม สอดคล้องกับผลวิจัยของชาวญี่ปุ่นชื่อ Tayada Watabe ที่พบว่าอิฐจากโบราณสถานในภาคต่าง ๆ ของไทยมีแกลบของข้าวชนิดต่าง ๆ ปน ได้แก่ ข้าวเมล็ดป้อม ข้าวเมล็ดใหญ่ และข้าวเมล็ดเรียว

รวมทั้งผลจากการวิจัยของ ศาสตราจารย์ ชิน อยู่ดี เป็นหลักฐานสำคัญที่แสดงให้เห็นว่า ก่อนพุทธศตวรรษที่ 16 มีข้าวเมล็ดป้อมมาก รองลงมาได้แก่ข้าวเมล็ดใหญ่ ข้าวเมล็ดเรียวก็พบบ้าง พบมากที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ระหว่างพุทธศตวรรษที่ 16-20 ก็ยังพบข้าวเมล็ดป้อมอยู่

ข้าวเมล็ดใหญ่พบน้อยลง แต่ข้าวเมล็ดเรียวกลับพบมากขึ้น จากผลงานวิจัยนี้ จึงสันนิษฐานว่า ข้าวเมล็ดป้อมนี้ น่าจะได้แก่ “ข้าวเหนียว” ที่งอกงามในที่ลุ่ม ส่วนข้าวเมล็ดใหญ่ก็น่าจะเป็นข้าวเหนียวที่งอกงามในที่สูง ส่วนข้าวเมล็ดเรียวน่าจะเป็นข้าวเจ้า ดังนั้น บทสรุปของการวิจัยของอาจารย์ชิน อยู่ดี จึงอาจสันนิษฐานได้ว่า มนุษย์เมื่อ 3,000 ปีมาแล้ว กิน “ข้าวเหนียว” (เมล็ดป้อมและเมล็ดใหญ่)

ร่องรอยข้าวในประเพณีของภาคตะวันออกเฉียงเหนือไทย


ข้าวกับประเพณีไทย

ตามรอยประเพณีไทยตามรอยข้าว เราจะมาตามรอยประเพณีเก่าแก่ของคนไทยจากข้าวปลาอาหารกันว่า มีกี่อย่างและมีประเพณีอะไรบ้าง ร่องรอยข้าวในภาคตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศไทย ข้าวถือได้ว่าเป็นอาหารหลักของผู้คนในประเทศกลุ่มอนุภูมิภาคลุ่มแม่น้ำโขงมานานแล้ว

โดยเฉพาะในบริเวณภาคตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศไทย หลักฐานที่แสดงให้เห็นความสัมพันธ์ระหว่างคน กับ ข้าว ได้แก่ รอยแกลบข้าวในภาชนะดินเผา พบที่แหล่งโบราณคดีโนนนกทา อำเภอภูเวียง จังหวัดขอนแก่น และภาพเขียนสีที่ผาหมอนน้อย บ้านตากุ่ม ตำบลห้วยไผ่ อำเภอโขงเจียม จังหวัดอุบลราชธานี แสดงรูปคนและสัตว์อยู่ในวงล้อมของภาพลายเส้นเป็นกลุ่มๆ คล้ายต้นข้าว แสดงให้เห็นว่า

ข้าวเป็นส่วนหนึ่งของวิถีชีวิตของผู้คนในบริเวณนี้มานานแล้ว จึงเป็นที่น่าสนใจว่าผู้คนในบริเวณภาคตะวันออกเฉียงเหนือนี้ เริ่มบริโภคข้าวเหนียวตั้งแต่เมื่อใด และปัจจัยใดที่ทำให้ดินแดนนี้บริโภคข้าวเหนียวเป็นหลัก แทนที่จะเป็นข้าวเจ้า หลักฐานทางโบราณคดีที่แสดงถึงความเก่าแก่ของข้าวนั้น พบที่บ้านโนนนกทา จังหวัดขอนแก่น และที่บ้านเชียง จังหวัดอุดรธานี

ที่มา:

1. ชาร์ลส ไฮแอม อธิบายไว้ว่า ราว 8,000 ปี ดูใน ชาร์ลส ไฮแอม และ รัชนี ทศรัตน์. (2542). สยามดึกดำบรรพ์ยุคก่อนประวัติศาสตร์ถึงสมัยสุโขทัย. กรุงเทพฯ : ริเวอร์บุ๊คส์. 73.

2. อาจารย์ ศรีศักร วัลลิโภดม เรียกการปลูกข้าวในภาคตะวันออกเฉียงเหนือของไทยนี้ว่า ฟลัด ไรซ์ (Flooded rice) ซึ่งเป็นการปลูกโดยหว่านลงไปในที่ลุ่มน้ำท่วมถึง ปล่อยให้เติบโตเองจนถึงเวลาเก็บเกี่ยว เป็นการปลูกแบบง่าย ๆ ลงบนพื้นที่ลุ่มชื้นแฉะใกล้กับชุมชนที่อยู่อาศัย จาก ศรีศักร วัลลิโภดม. (2533). แอ่งอารยธรรมอีสาน แฉหลักฐานโบราณคดี พลิกโฉมหน้าประวัติศาสตร์ไทย. กรุงเทพ : มติชน. 105.



ตามรอยประเพณีไทยตามรอยข้าว จะเห็นว่ามีประเพณีที่เกี่ยวกับข้าวปลาอาหารมากมายที่เกี่ยวพันกับชีวิตของคนไทยมากมาย ตามกันมาเลยจ้า





วันจันทร์ที่ 12 พฤศจิกายน พ.ศ. 2555

Evidence of Rice in North-Eastern Thailand (ประเพณีข้าวของไทย)



Rice has been the main source of food for the people in the Greater Mekong Subregion (GMS)since a long time ago. Some of the evidences showing the relationship between rice and the inhabitants of the North-East of Thailand are, for example; rice husk found in a pottery at the archaeological site of Non-Nok-Tha, Phuwiang District, Khon-kaen Province; and, rock painting at Pha Mon Noy, Ta Gum Village,Huay Phai Subdistrict, Khong Jeam District, Ubonratchathani Province, which depicts a man aiming his bow at a big deer, behind it were two men and two deer in the middle of a rice field. It is evident that people in this region have been eating rice since a long time ago. Therefore, it is interesting to find out that the evidence of Rice in North-Eastern Thailand is glutinous rice or rice.

Conclusion is Human selects different kinds of wild rice suited to their environment. This conforms to the Cultural Ecology theory and the geographical features of the North-East of Thailand and the evidence of Rice at the archaeological site is presume that it’s glutinous rice and enables the biggest yield of glutinous rice.
As a result, the people of this area mainly consume glutinous rice causing rice-related culture.

Key words: Rice, Glutinous Rice, Archaeology, North-East of Thailand, Cultural Ecology



ประเพณีและวัฒนธรรมเกี่ยวกับข้าวของไทย (Thai Version)

วันอาทิตย์ที่ 4 พฤศจิกายน พ.ศ. 2555

ประเพณีไทย เมื่อสมัย ครั้งเก่าก่อน เล่น แอบซ่อน รูปหลวง พวงมาลัย



สงกรานต์ บ้านนา

เพลงเพราะๆเนื้อหาดีนักร้องถ่ายทอดความรู้สึกได้ดีเยี่ยมระดับแผ่นเสียงทองคำ ซึ้งจริงๆ รักษาเอาไว้เด้อพี่น้อง ประเพณีดีๆของคนไทยของเราเด้อ อย่าถิ่มอย่าป๋าเอาไว้ถ่าลูกหลาน สืบสานกันต่อไป

ประเพณีไทย เมื่อสมัย ครั้งเก่าก่อน
เล่น แอบซ่อน รูปหลวง พวงมาลัย

ตรุษ สงกรานต์ สนานสนุก กันพอใจ
พี่ วิ่งไล่ น้องก็หลบ เมื่อพบหน้า

พี่ เข้ากอด น้องยังออด ทำ เอียงอาย
คืน เดือนหงาย พอพี่จูบ น้อง ทุบพลาง

นอน หนุนตัก สัญญารัก ข้าง กองฟาง
จน แสงเดือนจาง พี่ไม่ยอมห่าง น้องไปไกล

ลืมน้ำคำ ของพี่ เสียหมด
พี่คงอด เที่ยววันสงกรานต์ เดือนอ้าย

ย่างเข้าเดือนยี่ แล้วน้องหนี พี่ไปไหน
หรือเจ้าไปมีแฟนใหม่ ลืมเราวิ่งไล่ ในวันสงกรานต์

รัก กัน มา แต่เมษา วันที่เก้า
เศร้า ปีนี้เศร้า ขาดคู่เคล้า เศร้าซมซาน

คืน วัน เพ็ญ แสงเดือนเด่น เป็นพยาน
กลับเถิด นงคราญ มาเล่นสงกรานต์ ที่บ้านนาเรา

ลืมน้ำคำ ของพี่ เสียหมด
พี่คงอด เที่ยววันสงกรานต์ เดือนอ้าย

ย่างเข้าเดือนยี่ แล้วน้องหนี พี่ไปไหน
หรือเจ้าไปมีแฟนใหม่ ลืมเราวิ่งไล่ ในวันสงกรานต์

รัก กัน มา แต่เมษา วันที่เก้า
เศร้า ปีนี้เศร้า ขาดคู่เคล้า เศร้าซมซาน

คืน วัน เพ็ญ แสงเดือนเด่น เป็นพยาน
กลับเถิด นงคราญ มาเล่นสงกรานต์ ที่บ้านนาเรา